‘อานนท์ นำภา’ แกนนำราษฎร เสี่ยงติดโควิด รอบ2 ในเรือนจำ หลังป่วยหนัก ไม่สามารถคุยกับทนายความได้ ไผ่ ลั่น! ราชทัณฑ์ต้องมีคำตอบ 6 ม.ค. 65 เฟซบุ๊กของ ‘อานนท์ นำภา‘ แกนนำราษฎร ได้โพสต์เรื่องราวของตัวอานนท์ นำภาในรั้วเรือนจำไว้ว่า หลังจากที่ ทนายความได้เข้าเยี่ยมอานนท์เมื่อวานและวันนี้ ปรากฎว่าอาการของอานนท์แย่ลงจนไม่สามารถคุยกับทนายความได้นาน สำหรับวันนี้ อานนท์สามารถฝืนคุยได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น
อาการตอนนี้น่าเป็นห่วงเพราะตัวร้อนมาก ซึ่งตอนนี้อานนท์ป่วยเป็นโรคอะไร
ไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ มีเพียงการสันนิษฐานกันไปว่า อานนท์อาจจะติดโควิดรอบที่ 2 หรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่ถูกต้องยังต้องรอข้อมูลจากราชทัณฑ์ ซึ่งในขณะนี้ อานนท์ยังไม่ได้รับการประกันตัว จึงหวั่นใจว่าสุขภาพของเขาก็อดทนสู้กับโรคภัยได้มากน้อยเพียงใด เพราะอานนท์เคยติดโควิดมา 1 ครั้ง เเละเชื้อลงปอด ถึงแม้จะหายไปแล้ว แต่ร่างกายยังไม่ได้รับการตรวจให้ดีอีกครั้ง ปรากฎว่าเขาต้องเข้าเรือนจำอีกครั้ง
ประยุทธ์ มอบหมาย กระทรงพาณิชย์ หลังมีรายงานว่า ราคา ATK พุ่งสูง เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นมากขึ้น ย้ำซื้อขายต้องเป็นธรรม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากหลายช่องทางเกี่ยวกับราคาชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test Kit (ATK) ด้วยตนเอง ที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนที่ขายในร้านขายยา และร้านค้าออนไลน์ เนื่องจากมีความต้องการใช้เพื่อการตรวจคัดกรองมากขึ้น ทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใช้สำหรับคัดกรองก่อนเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม และหลังเทศกาลปีใหม่ที่มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคาก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับวางแนวทางป้องกันไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบประชาชนที่อยู่ในช่วงยากลำบาก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเช่นเดียวกับช่วงแรกที่รัฐบาลอนุญาตให้ใช้ชุดตรวจ ATK แล้วมีปัญหาชุดตรวจราคาสูง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะทำงานเพื่อทำหน้าที่ติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์ซื้อขายชุดตรวจ ATK นำไปสู่การวางมาตรการต่างๆ เพื่อให้มีการขายที่เป็นธรรม เปิดให้มีการแข่งขันสูงขึ้น ให้จำหน่ายผ่านช่องทางที่หลากหลายขึ้น ซึ่งได้ช่วยแก้ไขปัญหาและราคาชุดตรวจ ATK ต่ำลงมากจนประชาชนสามารถเข้าถึงในวงกว้างและกลายเป็นกลไกการตรวจคัดกรองและนำผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาได้รวดเร็ว ลดการเสียชีวิต จำกัดวงจรการระบาด
“ชุดตรวจ ATK เป็นเครื่องมือช่วยคัดกรองที่สำคัญ นอกจากกระทรวงพาณิชย์ต้องติดตาม แก้ไขและป้องกันปัญหาเรื่องราคาแล้ว นายกรัฐมนตรียังขอความร่วมมือผู้ขายอย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน ขอให้ทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม โดยภาครัฐมีกลไกติดตามการค้าขายในทุกช่องทางหากพบมีการเอารัดเอาเปรียบ ค้าขายไม่เป็นธรรมจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย”น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ศรีสุวรรณ ร้องอีก! ยื่น กกต.สอบปม ‘พัลลภ’ แฉ ‘ทักษิณ’ ปลดพ้นเพื่อไทย
ศรีสุวรรณ ยื่น กกต.สอบคำให้สัมภาษณ์ พล.อ.วัลลภ นพ.ชลน่าน จับพิรุธเพื่อไทย ปม ‘ทักษิณ’ มีเอี่ยวปลดพ้นเพื่อไทย วันนี้ (6 ม.ค.65) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงาน กกต. “พี่ศรี” หรือ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กรณีที่ปรากฎในสื่อมวลชนว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
และอดีตนายทหารยังเติร์ก แกนนำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7 ( จปร.7) ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ถูกปลดออกจากที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเกี่ยวข้องด้วยนั้น ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร
ทั้งนี้ เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร ถือว่าเป็นผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่หนีไปพำนักอยู่ต่างประเทศ ไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด การที่จะเข้ามาก้าวก่ายกิจกรรมของพรรคการเมือง หรือพรรคการเมืองยอมให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาชี้นำหรือครอบงำ ย่อมเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.28 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่งผู้ที่จะวินิจฉัยได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นจากการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.พัลลภนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องวินิจฉัย ตามที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สื่อมวลชนได้รายงานบทสัมภาษณ์ของพล.อ.พัลลภแล้วก็ปรากฏว่า มีสื่อมวลชนไปสัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตร ในกรณีดังกล่าวแล้วก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าวเลย
อีกทั้งเมื่อวันที่ 4 ม.ค.65 ที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงปฏิเสธและภาคเสธในกรณีดังกล่าวด้วย โดยมีคำอธิบายถึง 8 ข้อ ซึ่งจะเชื่อได้มากน้อยเพียงใดหรือไม่นั้น ไม่มีใครให้คำตอบได้ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนที่ผู้ถูกพาดพิงถึงย่อมต้องปฏิเสธ หากแต่ต้องพิจารณาดูพฤติการณ์หรือการกระทำต่อกรณีที่เกิดขึ้น ว่าสอดรับกับข้อเท็จจริงที่พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหรือไม่ด้วย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
