ฮิปโป ยืนยันกลาง โหนกระแส มือปริศนาโพสต์จาก มือถือแตงโม จริง เผยตอนนี้มือถืออยู่กับแม่ แต่เป็นไปได้ว่าอาจมีการโอนข้อมูล หลังจากที่มีมือปริศนาโพสต์ภาพจากมือถือของ แตงโม นิดา นักแสดงสาวที่ตกน้ำเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงส่งข้อความไปหาบุคคลต่างๆ ผ่านไลน์ของ แตงโม จนทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่าในขณะนี้นั้นมือถือของแตงโมอยู่กับใครกันแน่
ซึ่งทาง พุดเดิล และ ฮิปโป ได้เดินทางไปออกรายการโหนกระแส
ที่มีหนุ่ม กรรชัย เป็นพืธีกร โดย ฮิปโป กล่าวว่า รู้รหัสเข้าเครื่องมือถือแตงโม และจะแจ้งเบอร์โทรสำคัญๆเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ไม่ทราบอีเมล์ เฟซบุ๊ก ไอจี และคลับเฮ้าส์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนตัวและทางนักแสดงสาวไม่ได้แจ้งเอาไว้
นอกจากนี้ ฮิปโป ยังเล่าอีกด้วยว่าโดยปกติแล้วพวกเธอไม่ได้ถือโทรศัพท์แตงโม เพราะว่าแตงโมเป็นคนติดมือถือมาก และไม่เคยให้ใครถือมือถือของเธอเลย และเพิ่งเปลี่ยนมือถือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่แตงโมเสียชีวิต โดย หนุ่ม กรรชัย ได้เล่าย้อนว่าก่อนหน้านี้มือถืออยู่กับกระติก ผู้จัดการของแตงโม ก่อนจะส่งมอบให้ตำรวจ และ ตำรวจเพิ่งคืนเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฮิปโปเล่าว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไลน์ของแตงโมทักมาว่า “มึงยุ่งกับเฟซกูทำไม กูยังไม่ตาย” ซึ่งเมื่อฮิปโปเช็คก็ตกใจ ไม่ใช่เพราะว่าตกใจว่าเป็นแตงโม แต่งงว่าใครเป็นเข้าไลน์ของแตงโม นอกจากนี้พบว่าในเวลาเดียวกัน มือปริศนาส่งให้กระติกและเพื่อนคนอื่นด้วย
ในประเด็นที่ไลน์แตงโมวิดีโอคอลล์ไปหากระติก ฮิปโปเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตอนนี้อยู่กับแม่ของแตงโม หรือ จะต้องใช้วิธีโอนถ่ายข้อมูลจากมือถือของแตงโม ขณะที่ พี่หลาม ล้ำหน้าโชว์ ยูทูปเบอร์ด้านไอที แนะนำให้เปิดมือถือจากเครื่องของแม่ เพราะหากข้อมูลหายไปแสดงว่ามีการถ่ายโอนข้อมูล
หนุ่ม กรรชัย โต้กลับยืนยัน เมย์ เฟื่องอารมย์ ภรรยาตนไม่มีน้องชาย หลังถูกเพจแตงโมกล่าว น้องชายภรรยา สนิทกับไฮโซปอ
หนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้ออกมากล่าวโต้ตอบหลังจากที่มือปริศนาได้โพสต์พาดพิงว่า สาเหตุที่คนบนเรือที่อยู่กับแตงโม นิดาทั้งห้าคนออกแต่รายงานโหนกระแส เนื่องจาก น้องชายของภรรยาของหนุ่มกรรชัยนั้นเป็นเพื่อนกับ เป็นเพื่อนรักกับ นายปอร์ หรือ ไฮโซปอ และมีการเตรียมคำถามไว้ดั่งที่รายงานก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดทาง หนุ่ม กรรชัย ระบุว่า เมย์ เฟื่องอารมย์ ซึ่งเป็นภรรยาของตนนั้น ไม่มีทั้งน้องชายและน้องสาว พร้อมระบุด้วยว่า หากจะโพสต์อะไรควรหาและเช็กข้อมูลให้ดีก่อน
ในส่วนเรื่องของการออกรายการโหนกระแส โดย “หนุ่ม กรรชัย” ระบุว่า “ก้อง อายุน้อยร้อยล้าน” ติดต่อมาหาตนว่าอยากคุยกับ “ปอ” และคนบนเรือหรือไม่ โดยขอให้ไปเจอในคืนวันที่ 27 ก.พ. ก่อนออกรายการ ซึ่งยอมรับว่าตนไม่กล้าไป และได้ปรึกษากับ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ในฐานะผู้บังคับบัญชาของตน โดย “พี่ยุทธ” ระบุว่าตนจำเป็นต้องพูดคุยกับแหล่งข่าว ทุกๆ แหล่งข่าว พร้อมยืนยันว่าในรายการโหนกระแสไม่มีการเตี๊ยมคำถามอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังได้ หนุ่ม กรรชัย ยังได้ทิ้งท้ายว่า หากมือปริศนามีข้อมูลทั้งหมดที่จะบอกได้ว่าคนบนเรือฆ่า “แตงโม” แสดงว่ามีหลักฐาน แล้วจะไปขอข้อมูลจากคนบนเรือทำไม มีหมดแล้วก็เปิดออกมาซิ
เข้าเฟซบุ๊กคนอื่น ผิดกฎหมาย เตือนเข้าสู่ระบบบัญชีผู้อื่นโดยมิชอบ เสี่ยงคุก
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เข้าเฟซบุ๊กคนอื่น ตำรวจเตือน เข้าถึงบัญชีออนไลน์ผู้อื่นโดยมิชอบ ผิดกฎหมาย เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย เสี่ยงคุก วันที่ 23 พ.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชาชนให้ความสนใจ กรณีมีบุคคลได้เข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Happy Melon Patcharaveerapong “ ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม แล้วทำการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ
โดยอ้างว่าตนเองเป็น แตงโม พร้อมโพสต์ข้อความในลักษณะที่เป็นการกล่าวอ้างใส่ความบุคคลอื่น อ้างว่ามีพยานหลักฐานสำคัญ ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความสับสนในวงกว้าง จนเกิดคำถามและข้อสงสัยในสังคมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถกระทำได้หรือไม่ และถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย หรือไม่ นั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่าการกระทำของบุคคลดังกล่าว มีประเด็นพิจารณาเป็น 2 กรณี คือ
1. การเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่น เป็นการเข้าถึงโดยชอบหรือไม่ ถ้าเป็นการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. กรณีเผยแพร่ข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการใส่ความผู้อื่นและเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป